adsen

วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2566

หมอพิษชั่นหนึ่ง ตอนที่ 19 ความจริงของเรื่องราว

 

ตอนที่ 19 ความจริงของเรื่องราว

ยามค่ำคืน เงาร่างหนึ่งมาที่เรือนไผ่อย่างลับๆ

ท่านแม่ห้าเจ้าคะ มีผู้ใดเห็นหรือไม่” อวิ๋นซูมองสตรีที่ยามนี้สวมชุดคลุมสีดำพลางกล่าวถามเสียงเบา

อนุห้ายกยิ้มประดักประเดิด “เรือนไผ่แห่งนี้มีถนนเล็กๆ สายหนึ่งที่หลายคนไม่รู้ ข้ามาจากเส้นทางนั้น” ในจวนโหวมีเพียงนางที่เคยอาศัยอยู่ในเรือนไผ่ กระทั่งเหลยซื่อก็ไม่รู้จักถนนสายนั้น ในคืนที่ไม่มีแสงจันทร์ทั้งยังลมพัดแรงเช่นนี้ เกรงว่าจะถูกผู้คนพบเห็นได้ยากนัก

ลูกหกคงรู้แล้วกระมังว่าใครเป็นผู้วางยา” มิฉะนั้นเหตุใดจึงให้ตนมาหาดึกดื่นเพียงนี้

อวิ๋นซูส่ายหน้าเล็กน้อย บนใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มบางเบา มองไปยังอนุห้าตรงหน้าอย่างสงบ

อีกฝ่ายตกตะลึง “หากลูกหกมีสิ่งใดต้องการทราบ ข้าจะต้องบอกเจ้าทุกอย่างแน่นอน ครานี้หากไม่ใช่เพราะลูกหกเชื่อในตัวข้า เกรงว่าข้าคงหลงกลฮูหยินใหญ่ไปแล้ว”

เรื่องนี้อาจไม่ใช่ท่านแม่ที่เป็นผู้กระทำเจ้าค่ะ” แม้จะไม่ยินยอม ทว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ต่อหน้าผู้อื่นนางยังต้องเรียกภรรยาเอกท่านโหวว่าแม่

อนุห้าคิดจะถามอะไรบางอย่าง แต่อวิ๋นซูกลับตัดบท ในตอนที่ยังไม่มีหลักฐานนางยังไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องนี้มากนัก เพียงหวังว่าจะสามารถเตือนสติอนุห้าได้ มิใช่ปักใจเชื่อว่าเป็นเหลยซื่อแล้วเลิกจับตามองผู้อื่น

ที่อวิ๋นซูให้อี๋เหนียงมาหาเพราะเรื่องหนึ่งเจ้าค่ะ”

อืม ลูกหกกล่าวมาเถิด” ได้ยินน้ำเสียงจริงจังของอวิ๋นซูนางจึงรีบเก็บอารมณ์

อี๋เหนียงเต็มใจจะเชื่ออวิ๋นซูหรือไม่เจ้าคะ?”

อนุห้ารู้สึกประหลาดใจ ดรุณีน้อยตรงหน้าหยิบหมอนเล็กใบหนึ่งออกมาวางบนโต๊ะ “ได้ยินมาว่า อี๋เหนียงแต่งเข้ามาจวนโหวได้หลายปีแล้ว…”

เพิ่งจะกล่าวออกมา นางก็เข้าใจความหมายของอวิ๋นซู ใบหน้าปรากฏความโศกเศร้ายากปิดบัง อดไม่ได้ที่จะกุมท้องของตนไว้ นัยน์ตาส่องประกายวาววับ

อวิ๋นซูได้เรียนวิชาแพทย์จากท่านหมอในหมู่บ้านมาบ้าง หากอี๋เหนียงไม่รังเกียจ…”

ทว่า อนุห้ากลับถอนใจ “สามปีมานี้ข้าได้เชิญท่านหมอมาตรวจดูไม่น้อย แต่ไม่มีผู้ใดสักคนที่มีวิธีรักษา บางทีอาจจะเป็นโชคชะตากระมัง” การแท้งในครานั้นได้ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ นางไม่หวังกับเรื่องนี้แล้ว

อวิ๋นซูกลับผลักหมอนเล็กใบนั้นเข้ามา อนุห้ามองดวงตาที่เป็นมิตรของนาง แม้ใจจะไม่มีหวังอะไรมากมาย แต่ก็ไม่อยากทำลายความหวังดีของลูกหก จึงยกมือขึ้นวางข้อมือลงบนหมอน

อวิ๋นซูจับชีพจรของนางเบาๆ รู้สึกได้ว่าข้อมือของนางสั่นระริกเล็กน้อย บางทีอาจเป็นเพราะความเครียด หรืออาจเป็นเพราะความกลัว

ทว่า สีหน้าของดรุณีน้อยผู้นี้จริงจังขึ้น เนิ่นนานผ่านไปนางจึงเปิดปากกล่าวเสียงเรียบ “อี๋เหนียงทราบหรือไม่ว่าชะมดเชียง [1] ไม่ดีต่อสตรีมีครรภ์”

นี่…ข้าย่อมทราบ”

เช่นนั้นเหตุใดท่านจึงได้ใช้ชะมดเชียงอบเสื้อผ้าเจ้าคะ” ดูจากชีพจรของอนุห้าแล้ว ในร่างกายของนางแฝงไปด้วยยาสรรพคุณแรงชนิดหนึ่ง ยาชนิดนี้สามารถใช้ได้กับผู้ที่ตั้งครรภ์ยาก หากวินิจฉัยจากชีพจรเพียงอย่างเดียวก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเป็นยาชนิดใด แต่อวิ๋นซูกลับพบได้อย่างรวดเร็ว บนร่างกายของอนุห้ามีกลิ่นหอมอยู่บางเบา นางจึงทราบได้ทันทีว่าเป็นกลิ่นของชะมดเชียง

ปะ เป็นไปได้อย่างไร! ท่านโหวไม่ชอบเครื่องหอมที่ฉุนเกินไป ดังนั้นข้าจึงไม่เคยใช้เครื่องหอมอบผ้ามาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชะมดเชียงเลย” อนุห้าตกตะลึงอย่างยิ่งยวด นางรีบก้มหน้าสูดดมแขนเสื้อของตน อวิ๋นซูอยู่ใกล้ชิดสมุนไพรมาตั้งแต่เด็ก ความรับรู้ต่อกลิ่นย่อมไวกว่าคนธรรมดา แต่อนุห้านั้นแยกแยะกลิ่นไม่ออก คิดไปว่าเป็นกลิ่นสบู่หอมที่สาวใช้ใช้ซักเสื้อผ้า

ตอนที่ท่านกลับไปก็ลองค้นหาในตู้เสื้อผ้าดูว่ามีของประเภทนี้อยู่หรือไม่ ตอนนี้อย่าเพิ่งแพร่งพรายออกไป หากมีคนแอบซ่อนชะมดเชียงไว้จริง ก็คงมิอาจหาเจอได้ง่ายดายเช่นนั้น”

ใครที่มันโหดเหี้ยมเช่นนี้ ข้าจะต้องฟ้องท่านโหว!”

อี๋เหนียง ตอนนี้ยังไม่อาจให้ผู้อื่นรับรู้ได้เด็ดขาด หนึ่ง พวกเราไม่มีหลักฐาน สอง หากหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังไม่พบ จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ไม่แน่ว่าสิ่งที่รอท่านอยู่อาจไม่ใช่ชะมดเชียงแล้วก็เป็นได้ สู้หาของสิ่งนี้อย่างลับๆ ให้คนที่อยู่เบื้องหลังคิดว่าท่านยังอยู่ในกำมือของนางจะดีกว่าเจ้าค่ะ”

ได้ยินคำพูดของอวิ๋นซู อนุห้าจึงค่อยๆ สงบลง ใช่แล้ว หากไม่สามารถหาได้ว่าใครต้องการทำร้ายนาง เช่นนั้นคนผู้นั้นก็ยังมีเป็นร้อยพันวิธีที่จะวางแผนเล่นงานตน สู้แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปก่อน เช่นนี้จึงจะปลอดภัย

ร่างกายของอนุห้าสั่นระริก นางทราบมาตลอดว่าจวนโหวลึกล้ำดั่งมหาสมุทร ป้องกันร้อยพันวิธีก็ยังมิอาจป้องกันคนโฉดชั่วพวกนั้นได้

นางกำมือของตนด้วยความไหวหวั่น อวิ๋นซูปลอบใจนาง “ขอเพียงรีบหาของที่หายไปนั้นให้พบ และบำรุงให้มากๆ ร่างกายของอี๋เหนียงก็ไม่มีปัญหาแล้วเจ้าค่ะ”

จริงหรือ?” น้ำตาของนางไหลออกมาอย่างมิอาจระงับ เดิมทีคิดว่าการไม่มีทายาทในชาตินี้จะเป็นโชคชะตาของนาง ไม่คิดเลยว่าจะกลับกลายเป็นเช่นนี้…

หากอี๋เหนียงเชื่ออวิ๋นซู…”

ข้าเชื่อ! ข้าเชื่อ ขอบคุณลูกหก…” นางกอดอวิ๋นซูเข้ามาในอ้อมอกอย่างสะเทือนอารมณ์ พยายามอย่างยิ่งยวดไม่ให้ตนเองร้องออกมา คิดถึงลูกที่ไม่มีโอกาสได้ออกมาดูโลกของตน คิดถึงความอ่อนโยนทะนุถนอมของท่านโหวในวันนั้น ความใกล้ชิดก็ไม่ใช่ห่างเหินก็ไม่เชิงในวันนี้ ความอยุติธรรมอันไร้ขอบเขตและความไม่พอใจพลันล้นทะลักออกมา

ไม่ง่ายเลยกว่าจะส่งอนุห้ากลับไปได้ อารมณ์ของอวิ๋นซูดำดิ่งลงอย่างไม่อาจควบคุม นางเข้าใจความเจ็บปวดเช่นนั้นดี เพราะลูกที่ไม่มีโอกาสได้เกิดมาของตน นางไม่สามารถให้อภัยสองคนนั้นได้ตลอดกาล กระทั่งตอนนี้ ในความฝันของนางก็ยังได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กทารกอยู่

ไม่ นางไม่อาจรอต่อไปได้ ในเมื่อโอกาสไม่มาหา เช่นนั้นนางก็จะสร้างโอกาสขึ้นมาเอง!

แสงเทียนสาดส่องระเรื่อ สำหรับคนบางคน ค่ำคืนนี้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าเป็นค่ำคืนที่ยากจะข่มตานอน

วันต่อมา อวิ๋นซูฝังเข็มระบายเลือดให้ฮูหยินผู้เฒ่าอีกครั้ง เมื่อเก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้วฮูหยินผู้เฒ่าที่ฟื้นฟูกำลังขึ้นมาบ้างจึงเปิดปากกล่าวเสียงเรียบ “ให้พวกนางเข้ามา”

ไม่มีใครคาดคิดว่าในช่วงนี้อวิ๋นซูจะคอยรักษาร่างกายของฮูหยินผู้เฒ่า นางได้รับการบอกใบ้จากสายตาของฮูหยินผู้เฒ่า จึงถอยหลังไปอย่างสงบ เมื่อประตูเรือนเปิดออกพบกว่าเหลยซื่อและหลิ่วอวิ๋นฮว๋ายืนอยู่ด้านนอก สีหน้าของพวกนางทั้งสองพลันเปลี่ยนสี ปรากฏแววเหยียดหยามและไม่พอใจอยู่หลายส่วน

วันนี้เป็นวันที่สาม หลิ่วอวิ๋นฮว๋าถึงกับออกมาแล้ว

ท่านแม่” เหลยซื่อคารวะ อีกฝ่ายตอบรับเสียงเย็นครั้งหนึ่ง ส่วนหลิ่วอวิ๋นฮว๋าที่อยู่ด้านหลังมีแววรังเกียจปรากฏในดวงตาแวบหนึ่งแล้วหายไป ก่อนแย้มยิ้มที่เจือความเย็นชาอยู่หลายส่วน “น้องหกลำบากแล้ว” ถึงกับมาประจบฮูหยินผู้เฒ่าแต่เช้า นังแพศยานี่ช่างมีใจลำบากเสียจริง!

อวิ๋นซูยิ้มให้ แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินน้ำเสียงเสียดสีของนาง สองแม่ลูกเดินผ่านตัวนางเข้าไปในเรือน

เมื่อปิดประตูลง มีเสียงแว่วออกมาจากข้างใน

ท่านแม่เจ้าคะ ตอนนี้คุณชายใหญ่กลับถึงเมืองแล้วเจ้าค่ะ”

***********************

คำอธิบายเพิ่มเติม

[1] ชะมดเชียง หรือ เสี่ยเฮียง เป็นยาที่ทำมาจากชะมด โดยตรงส่วนท้องระหว่างสะดือกับรูหนังหุ้มอวัยวะเพศของชะมดเชียงตัวผู้ จะมีต่อมกลิ่นซ่อนอยู่ใต้ผิวหนัง เรียกว่า “ต่อมชะมดเชียง” ต่อมนี้มีลักษณะกลมรีคล้ายรูปไข่หรือครึ่งวงกลม ตรงกลางของต่อมมีรูเล็กๆ รูหนึ่ง สามารถขับสารที่มีลักษณะเป็นไขมันสีน้ำตาลที่มีกลิ่นหอมออกมา สารจากต่อมกลิ่นนี้เองที่ใช้มาทำยาที่เรียก ชะมดเชียง ใช้เป็นยามาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

หมอพิษชั่นหนึ่ง ตอนที่ 33 จับได้คาหนังคาเขา

  ยามเที่ยงวัน รถม้าหรูหราคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูจวนโหว บุรุษผิวคล้ำคนหนึ่งลงจากรถม้าแล้ววิ่งเข้าไป เขาก้าวยาวๆ ไปตามระเบียง ตลอดทางข้ารั...