adsen

วันพุธที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2566

หมอพิษชั้นหนึ่ง ตอนที่ 2 สิ้นชีพด้วยความอาฆาต

 ตอนที่ 2 สิ้นชีพด้วยความอาฆาต

“ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นผู้ใด?!” แววตาของจักรพรรดิเซียวราวกับกำลังมองงูพิษตัวหนึ่ง “นางเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเจ้า เหตุใดใจของเจ้าจึงได้อำมหิตเช่นนี้!”

“ฝ่าบาท อย่าได้โทษท่านพี่เลยเพคะ ท่านพี่ทราบว่าหม่อมฉันมีเลือดเนื้อเชื้อไขของพระองค์ นางจึงได้โกรธแค้นหม่อมฉัน นับว่าสมควรแล้ว” อวิ๋นเม่ยยังคงท่าทีเมตตาอ่อนโยนเฉกเช่นทุกครั้ง ดวงหน้าอันเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาทำให้องค์จักรพรรดิเซียวรู้สึกปวดใจ

“เจ้าผิดอะไร?! ข้าต้องการสตรีผู้หนึ่งยังต้องถามความเห็นชอบของนางด้วยหรือ?” องค์จักรพรรดิเซียวยื่นมือไปเบื้องหน้าของอวิ๋นซู นัยน์ตาฉายแววโหดเหี้ยม “นำยาถอนพิษออกมา!”

นางไม่ได้เป็นผู้วางยาพิษ จะนำยาถอนพิษออกมาได้อย่างไร?! อวิ๋นซูมองใบหน้าที่ตนรักยิ่ง นางเชื่อใจพระสวามีที่สุด แต่เขากลับไม่แม้แต่เชื่อใจนาง!

นางยกยิ้มเย้ยหยัน แววตาของจักรพรรดิเซียวพลันเย็นเยียบ “ยิ้มอะไรของเจ้า!”

“ฝ่าบาท พระองค์เคยตรัสเอาไว้ว่า บนโลกนี้พระองค์เชื่อใจเพียงหม่อมฉันเท่านั้น” หลายปีมานี้ในยามลำบากที่สุด ตนคอยติดตามอยู่ข้างกายเขา วางแผนเสี่ยงอันตรายต่างๆ นานา เขาเคยกล่าวว่า ชั่วชีวิตนี้ของเขาเชื่อใจนางเพียงผู้เดียว!

“เป็นเพราะข้าเชื่อเจ้า เจ้าจึงได้ไปมั่วโลกีย์กับหย่วนติ้งโหวอย่างไรเล่า! อวิ๋นซู เจ้าทำให้ข้าผิดหวังนัก!”

“ฮ่าๆๆ…เซียวอี้เชิน คนที่ข้าอวิ๋นซูผิดหวังที่สุดก็คือท่าน!” เสียงหัวเราะของนางเต็มไปด้วยความผิดหวังอย่างลึกล้ำ

“หม่อมฉันปฏิบัติต่อพระองค์เช่นไร ในใจพระองค์ย่อมรู้ดี ยามนี้หม่อมฉันวางแผนกำจัดหย่วนติ้งโหวเพื่อพระองค์ แต่พระองค์กลับ…”

เสียงตบหน้าดังขึ้น ฝ่ามือนี้ของเขาทำให้นางตาสว่างและเจ็บปวดใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

“อวิ๋นซู ที่ผ่านมาเจ้าคอยย้ำอยู่เสมอว่าตนเองทุ่มเทเพื่อข้าเช่นไร เจ้าฉลาดหลักแหลมเช่นไร ทำไมเล่า เจ้าคิดว่าไม่มีเจ้าแล้วข้าจะกำจัดหย่วนติ้งโหวไม่ได้หรือ? ใจของเจ้าไม่ได้ยอมรับข้าจริง เจ้าก็เหมือนกับหย่วนติ้งโหว!”

ดวงตาของเขาอัดแน่นไปด้วยความโกรธ สายตาของนางทำให้เขาคิดไปถึงเหล่าคนที่ดูถูกเหยียดหยามเขาในกาลก่อน เขาคิดว่าตนเองมีความสามารถที่สุดในหมู่องค์ชายมากมาย เพียงแต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีพระมารดาที่มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่

ทว่า ยามที่เขาคว้าใต้หล้ามาไว้ในมือได้ในที่สุด ชื่อที่ได้ยินบ่อยเสียยิ่งกว่าชื่อของตนกลับเป็นชื่อของเซียวฮองเฮา! ผู้คนเคารพยำเกรงนางยิ่งกว่าตนมากนัก!

นางเป็นแค่สตรีผู้หนึ่ง เป็นสตรีของเขา เขาต้องการให้ผู้คนรับรู้ว่าเขาสามารถบงการชีวิตนางได้ จะทำให้นางเป็นฮองเฮาหรือจะทำให้นางเป็นนักโทษประหารก็ย่อมได้!

อวิ๋นซูมองเห็นความสะอิดสะเอียนที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในสายตาของคนตรงหน้า พระสวามีที่ปกป้องคุ้มครองตนมาโดยตลอดกลับเก็บซ่อนความเกลียดชังลึกล้ำไว้ถึงเพียงนี้!

“หม่อมฉันไม่เคย…พระองค์ย่อมทราบดี…” อวิ๋นซูมิอาจหลอกตนเองได้อีกต่อไป แม้อวิ๋นเม่ยจะร้ายกาจเพียงใด แต่หากฝ่าบาทไม่อนุญาตจะสามารถเข้าออกคุกอย่างอิสระได้อย่างไร จะทำตัวไร้มารยาทกับตนที่เป็นฮองเฮาได้อย่างไร ทั้งที่นางรอคอยเขายกทัพกลับมาโดยตลอด แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นความเย็นชาไร้หัวใจของเขา!

อวิ๋นเม่ยยกยิ้มเย็น แต่เพียงพริบตาก็พลันมลายหายไป “ฝ่าบาท ที่นี่ปล่อยให้เม่ยเอ๋อร์จัดการเถิด อากาศหนาวเย็นนัก ฝ่าบาทโปรดรีบเสด็จกลับไปพักผ่อนเถิดเพคะ”

“เม่ยเอ๋อร์ พิษของเจ้า…” เขากุมมือทั้งสองของอวิ๋นเม่ยอย่างระมัดระวัง พลันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงหยิบยาลูกกลอนสีแดงเข้มเม็ดหนึ่งออกมาจากบริเวณเอว “ยาถอนพิษนี้เจ้ากินเสีย”

ยาถอนพิษ? ม่านตาของอวิ๋นซูพลันหดเกร็ง เขากล่าวว่าไม่มีแล้วมิใช่หรือ? เมื่อหนึ่งปีก่อนนางต้องถูกพิษร้ายแรงก็เพื่อเขา เขากล่าวอย่างปวดใจว่าจะอย่างไรก็ไม่ควรกินยาถอนพิษที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเม็ดนี้ แต่วันนี้กลับ…ฮ่าๆ ช่างน่าขันเสียจริง ยาที่สามารถถอนพิษนับร้อยในใต้หล้านี้ได้ ถูกนำมารักษาสองมือของอวิ๋นเม่ยไปเสียแล้ว

พิษเล็กน้อยแค่นี้ สำหรับคนตระกูลอวิ๋นของพวกนางไม่นับเป็นอะไรได้!

“ฝ่าบาท…” ดวงหน้าของอวิ๋นเม่ยแดงระเรื่อ “ยานี้มีค่ามากนัก…”

“ต่อให้มีค่ามากกว่านี้ ก็เทียบเจ้ากับโอรสข้าไม่ได้”

พอแล้ว! นางไม่อยากฟังอีกต่อไป นางไม่อยากฟังพระสวามีที่นางรักยิ่งพูดจาหวานปานน้ำผึ้งกับผู้อื่น! และผู้นั้นยังเป็นน้องสาวแท้ๆ ที่นางรักถนอมมาตั้งแต่เด็กอีกด้วย!

พระโอรส? อวิ๋นซูราวกับตระหนักถึงอะไรบางอย่าง ในสายตามีแววเว้าวอนอยู่หลายส่วน “ฝ่าบาท ไม่ว่าพระองค์จะทรงเกลียดหม่อมฉันเพียงใด แต่อย่างไรในท้องของหม่อมฉันก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพระองค์ โปรดอย่าทำร้ายเขา…” นางเข้าใจเซียวอี้เชินดี หากถอนหญ้าต้องถอนถึงราก! แต่นี่คือบุตรของพวกเขา!

“หุบปาก! มารหัวขนในท้องของเจ้าเป็นลูกใคร ในใจเจ้าย่อมรู้ดี!” เขาพลันชักดาบออกมาจากเอว แต่กลับถูกอวิ๋นเม่ยหยุดเอาไว้ “ฝ่าบาท อย่าทำร้ายท่านพี่เลยเพคะ เม่ยเอ๋อร์ขอร้องท่าน!”

หยาดน้ำตาเม็ดโตไหลลงมาไม่หยุด “ถือเสียว่าสร้างกุศลให้โอรสของพวกเราเถิดเพคะ!”

เมื่อกล่าวถึงบุตรในท้องของอวิ๋นเม่ย แววตาขององค์จักรพรรดิเซียวก็อ่อนโยนลงไม่น้อย ใช่แล้ว ยังมีเรื่องบางเรื่องที่ต้องจัดการ บางทีเม่ยเอ๋อร์อาจจะสามารถทำให้พี่สาวของนางพูดความจริงออกมาได้

“เม่ยเอ๋อร์ หากว่านางยังปากแข็งอีก ก็…” สายตาของเขามองไปยังเครื่องทรมานอันเย็นเยียบที่แขวนอยู่บนกำแพง

“อากาศเย็นนัก เจ้าก็รีบไปจากที่นี่เถิด ประเดี๋ยวจะเสียสุขภาพ”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

สุดท้ายจักรพรรดิเซียวมองอวิ๋นซูอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง แล้วจึงสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป

รอบข้างปกคลุมไปด้วยความเงียบอีกครั้ง จนกระทั่งเสียงหัวเราะใสราวกระดิ่งดังขึ้น อวิ๋นเม่ยหยิบยาในปากที่เมื่อสักครู่ไม่ได้กลืนเข้าไปออกมา “ท่านพี่ ท่านดูสิ ฝ่าบาททรงรักข้า!” นางหันกายมองสตรีที่ถูกโซ่เหล็กล่ามอย่างจนตรอกด้วยสายตาหยามเหยียด จนได้สบเข้ากับความเยือกเย็นในดวงตาของอวิ๋นเม่ยโดยไม่ตั้งใจ

ใจของนางพลันสั่นสะท้าน ไม่ ไม่มีอะไรน่ากลัว ยามนี้หากนางต้องการชีวิตของอวิ๋นซูก็ง่ายดายยิ่งกว่าฆ่ามดเสียอีก!

“พูดมา ของที่ท่านย่ามอบให้ท่าน ท่านเก็บเอาไว้ที่ใด?” มรดกตกทอดของตระกูลอวิ๋นเป็นสิ่งที่อวิ๋นเม่ยนึกอยากได้มาตลอด

ทว่า อวิ๋นซูกลับทำเพียงจ้องมองไปยังปลายเท้าของตนเองด้วยแววตาเลื่อนลอย

“ท่านคิดว่าไม่พูดแล้วข้าจะหาไม่พบหรือ? เอาเถิด บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้าเป็นของข้าแล้ว ท่านก็ตายไปพร้อมกับความลับของท่านเสียเถอะ!”

นางกระชากใบหน้าของอวิ๋นซูที่ทำให้นางเกลียดเข้ากระดูกอย่างโหดเหี้ยม “ทหาร ถลกหนังหน้าของนางออกมาให้ข้า!”

ทหารองครักษ์หลายนายเดินเข้ามา อวิ๋นเม่ยถอยหลังไปหลายก้าวด้วยเกรงว่าเลือดจะเปื้อนชุดอันแสนล้ำค่าของนาง

ดวงตาของอวิ๋นซูฉายแววไม่อยากจะเชื่อ น้องสาวของนาง…ถึงกับใช้วิธีการเช่นนี้มาทรมานนาง?! เสียงกรีดร้องแหลมสูงทั้งโศกเศร้าวนเวียนอยู่ในหู ทะลุผ่านกำแพงหินอันเย็นเยียบสู่พระราชวังด้านบน ลอยแว่วอยู่นมนานก่อนสลายหายไป

สายตาของทหารองครักษ์หลายนายเริ่มปรากฏอารมณ์ให้เห็น มีเพียงอวิ๋นเม่ยที่มีรอยยิ้มบางเบาบนใบหน้าอยู่ตลอด กระทั่งหนังหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดสดๆ ถูกถลกออกมาทั้งเป็น ศีรษะของสตรีที่ไม่เหลือเค้าเดิมผู้นั้นห้อยลงมาพร้อมลมหายใจเฮือกสุดท้าย เลือดไหลย้อมชุดหงส์ของนางจนกลายเป็นสีแดงฉาน

อวิ๋นเม่ยมองหนังหน้าแผ่นนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย “เผาเสีย” ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ในใต้หล้านี้ ใบหน้าของตนจะมีเพียงหนึ่ง ไม่มีสอง จะไม่มีผู้ใดสามารถเบียดบังความโชติช่วงของนางได้อีกต่อไป!

ทันใดนั้นใบหน้าที่มีเพียงเลือดเนื้อพลันเงยขึ้น แววตาดุร้ายเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง อวิ๋นเม่ยสบตากับนางเช่นนั้น ในดวงตาของนางฉายแววโหดเหี้ยม “ผ่าท้องของนางออกมา”

“อั่ก…เจ้า เจ้ากล้า…” นางจะตายไม่ได้ นางมิอาจทำให้โอรสที่ยังไม่คลอดของนางตายไปเช่นนี้ได้! “เซียวอี้เชิน”

ราวกับว่านี่เป็นเสียงแห่งความผิดหวังที่ดังออกมาจากขุมนรก ลมหายใจสุดท้ายของนางดับสิ้น ดวงตาแดงก่ำเบิกกว้าง น้ำตาโลหิตสองสายไหลลงสู่พื้นอันเย็นเฉียบ

ยามนี้ทุกภาพเหตุการณ์ในอดีตกลายเป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างแรงกล้า หากชาติหน้ามีจริง นางจะต้องทำให้พวกเขาเจ็บปวดเป็นพันเท่าหมื่นเท่า! ต่อให้กลายเป็นวิญญาณชั่วร้าย นางก็จะต้องทำให้คนที่ทรยศนางต้องชดใช้อย่างสาสม!

“แม่นางอวิ๋น…” องครักษ์นำเด็กที่เพิ่งจะถูกผ่าออกมา แต่อวิ๋นเม่ยกลับจ้องไปยังองครักษ์ผู้นั้น

อีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก พลันรีบก้มศีรษะลง “พระสนม เป็นทารกหญิงพ่ะย่ะค่ะ”

ทารกหญิง? “ฮ่าๆ นำไปทิ้งหลังภูเขา คอยดูให้หมาป่ามันกินไปเสีย”

“พ่ะย่ะค่ะ พระสนม”

ในตอนนเอง ดวงตาทั้งสองขององครักษ์ผู้หนึ่งพลันฉายแววโกรธแค้น ทรุดกับพื้นอย่างเจ็บปวดและกระตุกไม่หยุด เขามองสตรีที่บัดนี้กำลังมองลงมายังตนเองด้วยรอยยิ้มเย็น เป็นนาง! ผู้ที่สามารถวางยาพิษเขาได้โดยที่ไม่มีผู้ใดรู้ตัว มีเพียงคนตระกูลอวิ๋นเท่านั้น!

อวิ๋นเม่ยกุมท้องของตนอย่างทะนุถนอม “ลากมันออกไป รายงานฝ่าบาทว่าเซียวฮองเฮาถูกมือสังหารที่ปลอมตัวเป็นองครักษ์ผู้หนึ่งฆ่า กระทั่งเด็กในท้องก็ไม่ละเว้น ได้ยินแล้วหรือไม่?!”

ยามนี้ ทุกคนล้วนกริ่งเกรงในตัวอวิ๋นเม่ย ต่างพากันก้มหน้าด้วยเกรงว่าคนที่จะตายรายต่อไปอาจเป็นตน

“ฮ่าๆ ท่านพี่ นับแต่นี้เป็นต้นไป ให้ข้าได้เสพสุขกับความมั่งคั่งและยศศักดิ์แทนท่านก็แล้วกัน…”

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

หมอพิษชั่นหนึ่ง ตอนที่ 33 จับได้คาหนังคาเขา

  ยามเที่ยงวัน รถม้าหรูหราคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูจวนโหว บุรุษผิวคล้ำคนหนึ่งลงจากรถม้าแล้ววิ่งเข้าไป เขาก้าวยาวๆ ไปตามระเบียง ตลอดทางข้ารั...